Top 20 นักเตะเชลซี Legendary

                 Top 20               

นักเตะในตำนานของ Chelsea

20 - แพ็ท เนวิน มิดฟิลด์ริมเส้น (ช่วงปี 1983-1988, จำนวนนัด 237+5 นัด, ยิงได้ 45 ประตู)

ปีกพ่อมดชาวสก็อตแลนด์ เป็นหนึ่งในตัวริมเส้นที่ดีที่สุดในตำนานของเชลซี แม้เคนเบตส์ อดีตประธานสโมสรจะเปรียบว่าเขาเป็นคนแปลกๆ ที่ชอบอ่านนิยายคลาสสิค ฟังเพลงหลุดโลกและแต่งตัวไม่เหมือนคนอื่น แต่นี่คืออัจฉริยะตัวจริง

19 - รอน แฮร์ริส เซ็นเตอร์ (ช่วงปี 1961-1980, จำนวนนัด 784+11 นัด, ยิงได้ 14 ประตู)

กองหลังจอมแกร่งเจ้าของฉายา “ช็อปเปอร์” ที่พร้อมอัดคู่แข่งได้ทุกวินาที และคงมีเพียงไม่กี่คนที่ทาบรัศมีเขาได้ทั้งความทุ่มเทและระยะเวลาที่อยู่กับสโมสร เมื่อแฮร์ริสเป็นเจ้าของสถิติลงสนามสูงสุด เป็นกัปตันคนแรกที่ชูถ้วยเอฟเอ คัพและโทรฟี่ยุโรป

18 - ไอเดอร์ กุ๊ดยอห์นเซ่น กองหน้า (ช่วงปี 2000-2006, จำนวนนัด 177+86 นัด, ยิงได้ 78 ประตู)

หอกชาวไอร์แลนด์ ที่จับคู่กับจิมมีฟลอยด์ ฮัสเซลเบงค์ แล้วจะยิงประตูได้เป็นกอบเป็นกำ ด้วยสัมผัสบอลที่เยี่ยมยอด สายตาที่กว้างไกล และมักถอยร่นลงมาช่วยทีมในแดนกลางได้อย่างไหลลื่น ขนาดมูรินโญยังให้ฉายาว่า “มาราโดนาผมบลอนด์”

17 - โคล้ด มาเกเลเล มิดฟิลด์ (ช่วงปี 2003-2008, จำนวนนัด 201+16 นัด, ยิงได้ 2 ประตู)

เจ้าของบทบาทมิดฟิลด์ตัวรับตลอด 5 ปีที่อยู่ในเดอะ บริดจ์ ดาวเตะฝรั่งเศสรายนี้เป็นตัวทำเกมและปกป้องแผงหลังอย่างดีเยี่ยม พร้อมทั้งเป็นคนยิงประตูปิดท้ายก่อนชูถ้วยในฐานะแชมป์ลีกในเกมกับชาร์ลตันเมื่อปี 2005 ได้ด้วย

16 - แอชลีย์ โคล ฟูลแบ็ค (ช่วงปี 2006-ปัจจุบัน, จำนวนนัด 261+10 นัด, ยิงได้ 7 ประตู)

โคลได้รับการโหวตให้เป็นแบ็คซ้ายที่ดีที่สุดในวาระครบรอบ 20 ปีอิงลิชพรีเมียร์ลีก ย้ายมาจากคู่ปรับอย่างอาร์เซนอลและประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเจ้าของแชมป์เอฟเอ คัพรวมกัน 7 สมัย การันตีความสุดยอดของดาวเตะวัย 31 กระรัตรายนี้ได้อย่างดี

15 - ฆวน มาต้า มิดฟิลด์ (ช่วงปี 2011-ปัจจุบัน, จำนวนนัด 59+8 นัด, ยิงได้ 18 ประตู)

นี่คือนักเตะคนแรกที่ถัดจากรุด กุลลิท ที่ครองตำแหน่งดาวเตะยอดเยี่ยมของสโมสรทันทีในปีแรกที่ย้ายมา มาตาเล่นเชื่อมเกมระหว่างแดนกลางและหน้า มีส่วนสร้างสรรค์เกมถึง 26 แอสซิสต์กับ 12 ประตูเมื่อฤดูกาล 2011-2012 ทำให้ ‘สิงห์บลูส์’ คว้าดับเบิ้ลแชมป์อย่างยิ่งใหญ่

14 - จิมมี ฟลอยด์ ฮัสเซลเบงค์ กองหน้า (ช่วงปี 2000-2004, จำนวนนัด 156+21 นัด, ยิงได้ 87 ประตู)

เขาคือผู้สืบทอดตำนานหัวหอกต่อจากยุคเคอร์รี ดิ๊กซัน ในฐานะนักเตะค่าตัวแพงระยับในยุคนั้น สังหารประตูได้ทุกรูปแบบจนกลายเป็นผู้เล่นเชลซีคนแรกที่ครองตำแหน่งดาวยิงสูงสุดของพรีเมียร์ลีก

13 - บ็อบบี้ แทมบลิง กองหน้า (ช่วงปี 1958-1970, จำนวนนัด 366+4 นัด, ยิงได้ 202 ประตู)

ไม่มีนักเตะเชลซีคนไหนทาบรัศมีเขาได้เมื่อพูดถึงสถิติการถล่มประตู บ็อบบี้สวมตำแหน่งแทนจิมมี กรีฟส์ ที่จากทีมไปเมื่อปี 1961 เปิดทางให้ผลิตผลของสโมสรรายนี้สังหารประตูเป็นว่าเล่น และเป็นนักเตะเชลซีคนแรกที่ยิงประตูได้ในนัดชิงฯ ของเอฟเอ คัพ

12 - ปีเตอร์ โบเน็ตติ ผู้รักษาประตู (ช่วงปี 1960-1975 และ 1976-1979, จำนวนนัด 729 นัด, ยิงได้ - ประตู)

แม้หลายคนจะมองว่าเขารูปร่างเล็กไป แต่เจ้าของฉายา “เดอะ แค็ท” รายนี้ก็ชดเชยด้วยความปราดเปรียว และปฏิกิริยาตอบสนองที่ยอดเยี่ยมสมกับเป็นด่านสุดท้ายของยุคทศวรษที่ 60-70 อย่างแท้จริง

11 - มิชาเอล บัลลัค มิดฟิลด์ (ช่วงปี 2006-2010, จำนวนนัด 140+27 นัด, ยิงได้ 26 ประตู)

10 - จิมมี กริฟส์ กองหน้า (ช่วงปี 1957-1961, จำนวนนัด 169 นัด, ยิงได้ 132 ประตู)

ดาวยิงดีกรีทีมชาติอังกฤษในยุคปลายทศวรรษที่ 50 ร่วมทัพที่เดอะ บริดจ์ 5 ปี และเริ่มชีวิตค้าแข้งด้วยการยิงทีมเก่าอย่างสเปอร์ส ในนัดประเดิมสนาม เป็นเจ้าของสถิติตั้งแต่ระดับเยาวชนจนถึงอาชีพ เคยทำสถิติหวดไป 43 ประตูในซีซั่นเดียว รวมทั้งกด 13 แฮตทริคให้เชลซีอย่างยิ่งใหญ่

9 - เคอร์รี ดิ๊กซั่น กองหน้า (ช่วงปี 1983-1992, จำนวนนัด 413+7 นัด, ยิงได้ 193 ประตู)

"บอลแรกของผมอาจจะไม่ดีที่สุด แต่จังหวะจบสกอร์ผมก็ใช้ได้พอตัว" นี่คือประโยคเด็ดของหัวหอกจอมถล่มประตูแห่งยุค 80 ที่ผลงานของเขาต่ำกว่าสถิติสโมสรตลอดกาลเพียง 9 ลูกเท่านั้น นี่คือยอดกองหน้าแห่งยุคเลยก็ว่าได้

8 - เดนนิส ไวส์ มิดฟิลด์ (ช่วงปี 1992-2001, จำนวนนัด 434+11 นัด, ยิงได้ 76 ประตู)

จนถึงวันนี้ แฟนเชลซียังพูดถึงประตูที่ไวส์ซี่ยิงได้ที่ซาน ซิโร เขาอาจไม่ใช่นักเตะจอมลีลาประจำทีมในยุค 90 แต่เดนนิส คือยอดขุนพลที่เป็นผู้นำและหัวใจของทีมได้เสมอ

7 - ชาร์ลี คุ้ก มิดฟิลด์ริมเส้น (ช่วงปี 1966-1972 และ 1974-1978, จำนวนนัด 360+13 นัด, ยิงได้ 30 ประตู)

แฟนบอลรุ่นก่อนอาจจะจดจำเขาได้จากลูกเปิดสุดงามที่ลอยคว้างไปสู่ปีเตอร์ ออสกู้ดซัลโวตีเสมอในนัดชิงฯ เอฟเอ คัพ 1970 นัดรีเพลย์ และนี่คือเอ็นเตอร์เทนเนอร์ตัวจริงในตำแหน่งริมเส้นยุคเก่า

6 - ปีเตอร์ เช็ก ผู้รักษาประตู (ช่วงปี 2004-ปัจจุบัน, จำนวนนัด 381+1 นัด, ยิงได้ - ประตู)

มือกาวทีมชาติสาธารณรัฐเช็กรายนี้คือฮีโร่ตัวจริงในนัดชิงฯ แชมป์เปี้ยนส์ ลีกปีล่าสุด เขาเซฟจุดโทษถึง 3 ครั้งก่อนนำเชลซีเถลิงถ้วยยุโรปยุคใหม่ครั้งแรก เช่นเดียวกับความสม่ำเสมอในฐานะด่านสุดท้ายตั้งแต่มาร่วมทีมเมือปี 2004

5 - ปีเตอร์ ออสกู้ด กองหน้า (ช่วงปี 1964-1974 และ 1978-1979, จำนวนนัด 376+4 นัด, ยิงได้ 150 ประตู)

"คิง ออฟ สแตมฟอร์ด บริดจ์" นี่คือขวัญใจแฟนบอลแห่งอัฒจันทร์ฝั่งเชด เอ็นด์ ที่เกี่ยวพันกับสโมสรจนกระทั่งเสียชีวิตอย่างกระทันหันด้วยวัย 59 ปี เมื่อปี 2006 แต่ยังคงเป็นตำนานที่กล่าวขวัญถึงอยู่เสมอ ทั้งสถิติการยิงประตูทุกรอบในเอฟเอ คัพ 1970 กระทั่งถึงรอบชิงชนะเลิศ โดยปัจจุบัน เชลซีสดุดีเขาด้วยการสร้างอนุสาวรีย์ของ "ออสซี" ให้ตั้งตระหง่านอยู่นอกอัฒจันทร์ฝั่งเวสต์ สแตนด์

4 - จอห์น เทอร์รี เซ็นเตอร์ (ช่วงปี 1998-ปัจจุบัน, จำนวนนัด 535+22 นัด, ยิงได้ 49 ประตู)

นักเตะรุ่นปัจจุบันที่เพียบพร้อมทุกอย่างตั้งแต่การสกัดบอลที่หนักหน่วงแบบดั้งเดิม และจังหวะขึ้นเกมจากแนวรับที่ "เจที" ทำได้ดีทั้งสองเท้า นอกจากนันยังไต่เต้าจากทีมเยาวชนสู่ชุดใหญ่จนกลายเป็นกัปตันทีมชุดปัจจุบัน มีเพียง 136 นัดจากทั้งหมด 547 ครั้งเท่านั้นที่เขาเล่นโดยไม่มีปลอกแขนกัปตันทีม อีกทั้งเขากำลังจะกลายเป็นกองหลังคนแรกของสโมสรที่ยิงได้ถึงครึ่งร้อย

3 - จิอันฟรังโก โซลา กองหน้า (ช่วงปี 1996-2003, จำนวนนัด 260+52 นัด, ยิงได้ 80 ประตู)

เมื่อปี 2003 โซลาได้รับการโหวตให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมตลอดกาลจากแฟนบอลบนเว็บไซต์ของเชลซี และคงไม่มีใครเหมาะสมไปกว่าดาวเตะอิตาเลียนผู้นี้อีกแล้ว เมื่อเขาเป็นผู้เข้ามาพลิกโฉมหน้าของสโมสรและฟุตบอลอังกฤษให้ก้าวไปสู่อีกระดับ ด้วยลีลาการทำประตูที่สุดยอดและการวางตัวที่น่ายกย่องทั้งในและนอกสนาม

2 - แฟรงค์ แลมพาร์ด มิดฟิลด์ (ช่วงปี 2001-ปัจจุบัน, จำนวนนัด 531+39 นัด, ยิงได้ 189 ประตู)

ฤดูกาล 2003-2004 คือจุดเปลี่ยนสำหรับแลมพาร์ดอย่างแท้จริง เมื่อโรมัน อบราโมวิช มหาเศรษฐีชาวรัสเซียได้เข้ามาเทคโอเวอร์กิจการสโมสรในช่วงซัมเมอร์ก่อนหน้า และซื้อสตาร์ดังเข้ามาสู่ทีมนับไม่ถ้วน และทำให้เจ้าตัวพัฒนาไปอีกระดับ นอกจากนั้นยังเป็นมิดฟิลด์คนเดียวของสโมสรที่ยิงประตูใกล้แตะหลัก 200 

1 - ดิดิเยร์ ดร็อกบา กองหน้า (ช่วงปี 2004-2012, จำนวนนัด 274+67 นัด, ยิงได้ 157 ประตู)

ที่มาจาก      >>>http://www.goal.com/th<<<